วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หน้าแรก

Welcome to my journey
ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางครั้งนี้ทุกท่าน สถานีต่อไปของท่านคือ...
เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าวสัปปะรด สวยสดหาดเขาถ้ำ งามล้ำน้ำใจ
นักท่องเที่ยวทั้งหลายเคยได้ยินคำขวัญนี้มาก่อนไหมคะ? หลายๆท่านอาจจะนึกไม่ออกว่าเป็นคำขวัญของจังหวัดใด แต่สำหรับท่านที่ทราบแล้ว...ใช่แล้วค่ะ คำขวัญนี้เป็นคำขวัญของจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ นั่นเอง J

 (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยามค่ำคืน)
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่อยู่ตอนล่างสุดของภาคกลาง มีพื้นที่ติดกับจังหวัดที่อยู่ตอนบนของภาคใต้นั่นคือจังหวัดชุมพร จึงนับว่าประจวบคีรีขันธ์เป็นประตูก่อนสู่จังหวัดภาคใต้ เป็นเมืองที่มีชายฝั่งทะเลยาวตลอดแนว จึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลมากมายหลายแห่ง
ถ้าหากนักท่องเที่ยวทั้งหลายกำลังหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดต่างๆหรือเทศกาลสำคัญ หรือต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือชายทะเล ซึ่งเหมาะแก่การไปเที่ยวกับคนพิเศษหรือครอบครัว

หากนี่คือสิ่งที่ท่านกำลังตามหาอยู่...จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้ท่านจะได้รับความสุข ประสบการณ์และความประทับใจที่ไม่อาจลืมเลือนเลยทีเดียว...

เกี่ยวกับ


ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางตอนล่างซึ่งมีเขตแดนติดต่อกับภาคใต้ และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นชายหาดต่างๆ หมู่เกาะหรือป่าเขาลำเนาไพร เป็นสถานที่ตากอากาศเก่าแก่ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประจวบคีรีขันธ์เคยเป็นที่ตั้งของเมืองนารัง สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
(ภาพถ่ายมุมสูงบริเวณ อ่าวประจวบฯ กองบิน53 และ อ่าวมะนาว)
                ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ตั้งเมืองขึ้นใหม่ขึ้นที่ปากคลองอีรม ชื่อว่า เมืองบางนางรม และในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้รวบรวมเมืองบางนางรม เมืองกุย และเมืองคลองวาฬเป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งแปลว่าเมืองที่มีภูเขาเป็นหมู่ๆ โดยมีที่ว่าการเมืองอยู่ที่เมืองกุย จนกระทั่ง พ.ศ. 2441 จึงย้ายที่ว่าการเมืองมาอยู่ที่อ่าวเกาะหลัก หรืออ่าวประจวบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ประมาณ 6,367.620 ตารางกิโลเมตร 
ลักษณะพื้นที่แคบเป็นคาบสมุทรยาวลงไปทางใต้ โดยมีส่วนที่แคบที่สุดจากเขตแดนไทย-พม่าด้านตะวันตกจนถึงฝั่งทะเลด้านตะวันออกเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรอยู่บริเวณด่านสิงขร ท้องที่ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง และมีความยาวจากเหนือจรดใต้เป็นระยะทางประมาณ 212 กิโลเมตร
                แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี อำเภอกุยบุรี อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย และกิ่งอำเภอสามร้อยยอด
                * หมายเหตุ : การจัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่ในภาคกลาง เป็นการแบ่งตามเขตการปกครองกระทรวงมหาดไทย หากเป็นการแบ่งภาคทางภูมิศาสตร์ตามที่กำหนดไว้ในอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทยของราชบัณฑิตสถาน ประจวบคีรีขันธ์จัดอยู่ในภาคตะวันตก
                (แผนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยว ในเขตอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
เนื่องในโอกาสวันหยุดยาวที่ผ่านมาในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ซึ่งก็คือวันแม่แห่งชาตินั่นเอง...ดิฉันและครอบครัวได้เดินทางเพื่อไปเยี่ยมคุณปู่และคุณย่าที่จังหวัดชุมพร เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ทำให้ได้ท่องเที่ยวไปในหลายๆจังหวัด และจากการเดินทางที่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ดิฉันและครอบครัวจึงได้หยุดพักรับประทานอาหารและท่องเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ได้มีเวลาในการแวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่สวยงามและน่าสนใจ....

มาเริ่มกันที่แห่งแรกเลยค่ะJ
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่จะพานักท่องเที่ยวทุกท่านไปรู้จักคือ...ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์  ค่ะ







ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์  ตั้งอยู่บนถนนสละชีพ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ใกล้เชิงเขาช่องกระจก องค์หลักเมืองแกะสลักลวดลายปราณีตสวยงามวิจิตรบรรจง  โดยส่วนยอดแกะเป็น 4 พักตร์ 4 เศียร เป็นแบบสถาปัตยกรรมสมัยลพบุรี ได้รับการตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม  เป็นที่สักการะของชาวเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัด

(องค์หลักเมืองแกะสลักลวดลายปราณีตสวยงามวิจิตรบรรจง  โดยส่วนยอดแกะเป็น 4 พักตร์ 4 เศียร เป็นแบบสถาปัตยกรรมสมัยลพบุรี)


(ภาพบรรยากาศและบริเวณข้างหน้าของศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

สถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ถัดมา...ก็อยู่บริเวณใกล้เคียงกันค่ะ ขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว^3^ สถานที่นี้คือ เขาช่องกระจก ค่ะ

เขาช่องกระจก เป็นเขาขนาดเล็กที่มีลิงแสมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ยอดเขาทางด้านทิศเหนือ จะเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากกระแสลมและกระแสน้ำตามธรรมชาติ และถ้ามองจากด้านล่างจะเห็นว่าตรงช่องเขาแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับกระจกใสขนาดใหญ่ โดยทางขึ้นนั้นอยู่ด้านหลังศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีบันไดขึ้นถึงยอดเขา ทั้งหมด 396 ขั้น ความสูง 245 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่ตั้งของวัดเขาช่องกระจก ทั้งยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูก เมื่อมองลงมาจากยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมือง


(ภาพบรรยากาศเมื่อมองมุมเงยไปยังข้างบนเขาช่องกระจก)
 (ข้างล่างมีรูปปั้นลิงให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ^3^)
(ภาพบรรยากาศจากด้านบนเขา)

สถานที่ต่อมา...ดิฉันจะพาทุกท่านไปพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ถูกขนานนามว่า "เมืองสามอ่าว" นั้นมีที่มา มาจากอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์นั้น มีชายหาดติดต่อกัน 3 อ่าว นั่นคือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ในการเดินทางครั้งนี้เนื่องจากเวลาที่จำกัด ดิฉันจึงได้ไปเยี่ยมชมแค่ 2 อ่าว นั่นก็คือ อ่าวประจวบฯ และ อ่าวมะนาว ค่ะ

(เมืองสามอ่าว)

อ่าวประจวบคีรีขันธ์ (อ่าวเกาะหลัก)  อยู่ในตัวเมืองประจวบฯ มีเสน่ห์ตรงที่เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ริมอ่าวประจวบ มีหาดทรายและน้ำทะเลใสสะอาด อ่าวมีลักษณะโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว มีความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร  โดยเริ่มจาก เขาตาม่องล่ายทางด้านทิศเหนือ  เป็นวงโค้งไปจดเขาล้อมหมวกทางด้านทิศใต้  หน้าอ่าวมีเกาะรูปร่างแปลกตา อยู่หลายเกาะ และด้วยความยาวของอ่าวนี้เองทำให้พบเห็นความเป็นอยู่ วิถีชีวิตอันหลากหลายของคนในพื้นที่ ตั้งแต่หมู่บ้านชาวประมง ร้านค้า โรงแรมที่พักริมหาด หน่วยงานราชการ ตลอดจนสวนสาธารณะ และที่พักผ่อนหย่อนใจ ด้านหน้าอ่าวมีเกาะที่รูปร่างแปลกตาหลายเกาะ ทำให้ทิวทัศน์ของอ่าวดูสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนยามเย็นของชาวเมือง นักท่องเที่ยวมักมาชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่

(ภาพบรรยากาศของอ่าวประจวบฯ)
(บริเวณนี้เรียกว่า สะพานปลา ค่ะ)
(ภาพบรรยากาศของอ่าวประจวบฯ ในยามค่ำคืน)

อ่าวมะนาว    อยู่ในเขตกองบิน 5 กองทัพอากาศ เคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างกองทัพไทยและกองทัพญี่ปุ่น สามารถเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 และอนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ภายในค่ายทหารยังมี เขาล้อมหมวก บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุ ด้านหน้าเขามีศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกเป็นรูปปั้นคนจีน ตามประวัติกล่าวไว้ว่าท่านย้ายถิ่นฐานจากจีนแผ่นดินใหญ่มาในสมัยอยุธยา และได้สร้างคุณงามความดีให้แก่ท้องถิ่น ท่านเสียชีวิตเมื่ออายุ 97 ปี บริเวณต้นไทรใหญ่ข้างศาลเป็นที่อยู่อาศัยของ ข้างแว่น ประมาณ 80 ตัว มีนิสัยเชื่องสามารถให้อาหารจากมือได้ ในส่วนของทะเลหน้าอ่าวนั้น มีหมู่เกาะเล็กๆ มีแนวปะการังน้ำตื้น ชายหาดอ่าวนั้นโค้งเกือบเป็นวงกลม ยาว 3 กิโลเมตร คล้ายผลมะนาว จึงมีชื่อเรียกว่า "อ่าวมะนาว" ทะเลบริเวณนี้ไม่ลึกเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ริมชายหาดมีร้านอาหาร ที่พัก ร้านบริการต่างๆ แต่เนื่องจากอยู่ในเขตทหาร จึงมีระเบียบปฏิบัติของทางราชการที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตาม

(ภาพบรรยากาศของอ่าวมะนาว)
(ป้ายอ่าวมะนาวค่ะ)
(ภาพบรรยากาศแบบพาราโนรามาบริเวณโดยรอบของอ่าวมะนาว)

นอกจากนี้ ภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ทะเล น้ำตก หรือภูเขาต่างๆที่มีทัศนียภาพที่สวยงามและรื่นรมย์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง อาทิเช่น


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ภายในประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมประมง และสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา นำมาจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสนุกและได้ความรู้อีกแห่งหนึ่ง
(ป้ายพิพิธภัณฑ์และบริเวณโดยรอบ)
(ภาพสัตว์น้ำในพิพิธภัณฑ์)


อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง


อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก และอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซึ่งได้รวมจุดเด่นรอบๆ วนอุทยานน้ำตกห้วยยางผนวกเข้าด้วยกัน ซึ่งได้แก่ น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วยป่าเขา น้ำตก ชายหาด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

 (ป้ายอุทยานและบริเวณโดยรอบ)
(น้ำตกห้วยยาง)

เนินสันทราย

เนินสันทราย สิ่งมหัศจรรย์ของไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับบางเบิดรีสอร์ท ใครจะเชื่อว่าเนินสันทรายนี้ เกิดจากฝีมือของธรรมชาติ ด้วยความสูง30เมตร ตลอดระยะทางยาว10กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ทอดตัวคู่ขนานกับชายหาดรูปจันทร์เสี้ยว ขนาบข้างด้วยป่าเขา คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ออกแบบโดยน้ำและลม
 (ป้ายเนินสันทรายและบริเวณโดยรอบ)
(เนินสันทราย)

ด่านสิงขร

ด่านสิงขร เป็นเมืองหน้าด่านของประเทศไทย ในอดีตเป็นเส้นทางคมนาคมข้ามผ่านแผ่นดินคาบสมุทร จากฝั่งไทย (ทะเลอ่าวไทย) ไปยังฝั่งพม่า (ทะเลอันดามัน) และในปัจจุบันได้กลายเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า ระหว่างชายแดนไทยและพม่า  โดยส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยทรายซึ่งวัดระยะได้ 10.96 กิโลเมตร วัดตามแนวจากสันปันน้ำของทิวเขาตะนาวศรีจนถึงฝั่งทะเล ตามแนวที่ตัดผ่านหลักกิโลเมตร 340.4 บนถนนเพชรเกษม เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และมีสินค้าพื้นเมืองหลายชนิด
  (ป้ายด่านสิงขรและบริเวณโดยรอบ)
(ภาพบรรยากาศภายในด่านสิงขรและตัวอย่างสินค้า)

หากท่านรักน้ำรักทะเลหรือภูเขา...สิ่งสวยงามและมหัศจรรย์จากธรรมชาติในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แห่งนี้ จะช่วยเติมเต็มให้การท่องเที่ยวของท่านไม่น่าเบื่อและมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปอีก เนื่องด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและรื่นรมย์น่าสนใจ จึงอยากขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านมาสัมผัสบรรยากาศอันงดงาม ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แห่งนี้...
                                                                               
 ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูล




วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วัฒนธรรมประเพณี และ กิจกรรมท่องเที่ยว

วัฒนธรรมประเพณี

ข้อมูลวัฒนธรรมประเพณีประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางตอนล่างซึ่งมีเขตแดนติดต่อกับภาคใต้ และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นชายหาดต่างๆ หมู่เกาะหรือป่าเขาลำเนาไพร เป็นสถานที่ตากอากาศเก่าแก่ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประจวบคีรีขันธ์เคยเป็นที่ตั้งของเมืองนารัง สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ตั้งเมืองขึ้นใหม่ขึ้นที่ปากคลองอีรม ชื่อว่า เมืองบางนางรม และในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้รวบรวมเมืองบางนางรม เมืองกุย และเมืองคลองวาฬเป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งแปลว่าเมืองที่มีภูเขาเป็นหมู่ๆ โดยมีที่ว่าการเมืองอยู่ที่เมืองกุย จนกระทั่ง พ.ศ. 2441 จึงย้ายที่ว่าการเมืองมาอยู่ที่อ่าวเกาะหลัก หรืออ่าวประจวบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน

หัวหินแจ๊ส เฟสติวัล

 (ภาพบรรยากาศภายในงาน)
เป็นงานเทศกาลดนตรีแจ๊ส มีนักดนตรีจากไทยและต่างประเทศมาแสดงในงานนี้ โดยจัดบริเวณชายหาดหัวหินประมาณเดือนมิถุนายน

งานตักบาตรเทโวเขาช่องกระจก


(ภาพบรรยากาศการฉลองพิธีและการตักบาตร)
จัดขึ้น ณ วัดธรรมิการามวรวิหาร เชิงเขาช่องกระจก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประมาณช่วงออกพรรษาของทุกปี ชมและเลือกซื้อสินค้าของดีเมืองประจวบคีรีขันธ์ และชมนิทรรศการพระเครื่อง พระบูชา ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวในวันออกพรรษา แด่พระภิกษุจำนวน 200 รูป ชมประเพณีชักพระ ขบวนแห่รถพุทธประวัติ นอกจากนั้นผู้เข้าร่วมงานสามารถชมภูมิทัศน์ของอ่าวประจวบฯ อ่าวน้อย และอ่าวมะนาวจากยอดภูเขากลางเมืองได้อีกด้วย

งานวันที่ระลึก วีรกรรม 8 ธันวาคม 2484

(แท่นหินแกะสลักวีรกรรมของผู้กล้า)
จัดขึ้นที่บริเวณอ่าวมะนาว ภายในพื้นที่กองบิน 53 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม เพื่อเป็นการรำลึก และเชิดชูวีรกรรมของพลเรือน ตำรวจ ทหารของไทยที่เข้าร่วมต่อสู้กับกองกำลังทหารญี่ปุ่น ซึ่งยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ภายในงานมีการจัดนิทรรศการทางวิชาการของหน่วยงานทหารอากาศ และส่วนราชการต่าง ๆ และมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง การแสดงมหรสพ เช่น ลำตัด และโขนสด

 กิจกรรมท่องเที่ยว

ข้อมูลกิจกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลายประเภท นอกเหนือจากหาดทรายชายทะเลที่สวยงาม ยังมีเกาะต่าง ๆ ที่สามารถทำกิจกรรมดำน้ำดูปะการังได้ เช่นที่เกาะทะลุ เกาะสิงห์ และยังมีป่าเขา น้ำตกที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่า ดูสัตว์ต่าง ๆ ศึกษาธรรมชาติ เช่นที่ป่าละอู น้ำตกห้วยยาง และที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชนบทซึ่งเปิดโฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้ชีวิตชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย

แหล่งดูนก ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

(ภาพบริเวณทุ่งสามร้อยยอด)
การพบนกในราว 296 ชนิด อาศัยหากินในพื้นที่อุทยาน ฯ โดยเฉพาะบริเวณทุ่งสามร้อยยอด ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland)

ล่องเรือ จังหวัดประจวบครีขันธ์ 
(ล่องเรือแม่น้ำปราณ)
ล่องเรือออกปากแม่น้ำปราณ ชมป่าชายเลน วิถีชีวิตชาวประมง

ดำน้ำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 (ภาพบรรยากาศขณะดำน้ำ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)
นักดำน้ำสามารถจะมาค้นพบความสวยงามของใต้ท้องทะเลได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์





ข้อมูลการเดินทาง

ข้อมูลการเดินทาง
รถยนต์   
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ
เส้นทางแรก ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี เข้าสู่ตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
เส้นทางที่สอง ใช้เส้นทางสายเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี เข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
รถไฟ     
จากสถานีรถไฟหัวลำโพงมีบริการขบวนรถไฟสายใต้ผ่านหัวหิน ปราณบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ทุกวัน รถไฟท้องถิ่นมีขบวนรถกรุงเทพฯ-หัวหิน ออกจากกรุงเทพฯ 09.25 น. ถึงหัวหิน 13.45 น. และวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีขบวนรถนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์แบบเช้าไปเย็นกลับ หรือ จากสถานีรถไฟธนบุรี มีขบวนรถไฟธนบุรี-หลังสวน ออกเวลา 07.20 น. ถึงหัวหิน 11.52 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2220 4334 หรือ www.railway.co.th




รถโดยสารประจำทาง
จากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพฯ-หัวหิน กรุงเทพฯ-ปราณบุรี และกรุงเทพฯ-บางสะพาน เป็นประจำทุกวัน บริษัทที่ให้บริการเดินรถเส้นทางสายกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ บริษัทหัวหิน-ปราณทัวร์ โทร. 0 2884 6191-2 (ตั้งแต่เวลา 04.00–22.20 น.), บริษัทพุดตานทัวร์ โทร. 0 2435 5302 , 0 2435 7414 (ประจวบ)โทร. 0 3261 1411 (ตั้งแต่เวลา 06.00–01.00 น.), บริษัทบางสะพานทัวร์ โทร. 0 2435 5105, 0 2884 8895 บางสะพาน โทร. 0 3269 1267 บ้านกรูด โทร.0 3269 5074 (รถออกเวลา 07.30 น. รถบ้านกรูดออกเวลา 12.30 น. (วันเสาร์เพิ่มรอบ 07.30 น.) ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ โทร. 0 2435 1199, 0 2434 7192, 0 2435 5605 หรือ www.transport.co.th


เครื่องบิน
จากสนามบินสุวรรณภูมิ มีสายการบิน เอส จี เอ บินระหว่างกรุงเทพฯ-หัวหิน วันละ 4 เที่ยวบิน เวลา 7.30 น., 10.45 น., 14.15 น., เป็นประจำทุกวัน ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละ 45 นาที ติดต่อ SGA Airlines Office กรุงเทพฯ โทร. 0 2644 6099 สนามบิน โทร. 0 2134 3233-4 โทรสาร 0 2134 3235 หัวหิน โทร. 0 3252 2300, 0 3252 2302 website : www.sga.co.th , Email : info@sga.aero หรือ RESERVATION@sga.aero